ในวันอังคารที่ 16 มิถุนายน 2563 เวลา 16.30 ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เดินทางมายังจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย ศ.ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และคณะเพื่อประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนชี้แจงรายละเอียดนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ให้สถาบันการศึกษาเป็นผู้ขับเคลื่อน และตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าโครงการจ้างงานผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 พื้นที่เทศบาลตำบลบ้านแฮด อำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น โดยมี รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น และ นายวรทัศน์ ธุลีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 11 แห่ง ที่ห้องประชุมสารสิน อาคารสิริคุณากร ชั้น 2 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เมื่อเวลา 16.30 น. ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เดินทางมาถึงอาคารสิริคุณากร ได้เข้าชมนิทรรศการผลงานการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมต่างๆของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่บริเวณโถงชั้น 2 อาทิ โครงการต้นแบบสำหรับแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง, โครงการจิ้งหรีดปลอดภัยอาหารแห่งอนาคต, รวมนวัตกรรม มข.สู้ COVID-19, Bio-based circular for the sustainability of the northeast region, โครงการ KKU Smart City, โครงการ KKU Maker Space, KKU OCSB Digital Sugarcane Transformation และ BEG Economy Bio – circular – Economy Model ซึ่งรัฐมนตรีฯ, รองปลัดกระทรวง อว.และคณะให้ความสนใจซักถามผู้เกี่ยวข้องในโครงการต่างๆ
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.)
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ได้กล่าวว่ามหาวิทยาลัยเป็นกำลังหลักสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศโดยเฉพาะในช่วงหลังสถานการณ์ COVID-19 โดยเฉพาะในโครงการจ้างงานทั้งที่ดำเนินการมาแล้ว ระหว่างดำเนินการ รวมทั้งที่จะมีการจ้างงานบัณฑิตและนักศึกษาครั้งใหญ่ถึง 3 แสนราย ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ยังมีโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG อันเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลหลังสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งต้องผนึกกำลังกันของมหาวิทยาลัยด้วยเพราะเรามีมหาวิทยาลัยที่อยู่ในพื้นที่มากมายซึ่งเป็นที่รวมขององค์ความรู้และทำงานเชื่อมโยงกับภาคส่วนต่างๆในพื้นที่อยู่แล้ว รวมถึงเรื่องที่สำคัญอีกประการในฐานะเป็นกระทรวงที่สร้างคนเพื่อเป็นโอกาสที่ทำให้เราจะมีการพัฒนายกระดับทักษะการทำงานครั้งใหญ่ ดังนั้น โจทย์สำคัญที่ต้องมาหารือผุ้แทนมหาวิทยาลัยในหลายประเด็น บทบาทสำคัญของบัณฑิตต่อการทำงานในพื้นที่คือการรวบรวมข้อมูลใหม่สู่ Big Data ภายใต้โครงการ Community Map อันนำไปสู่ความเข้มแข็งตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ไว้คือสร้างเข้มแข็งจากภายในเชื่อมประเทศไทยสู่ประชาคมโลก และ เดินหน้าไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังโดยเฉพาะความเข้มแข็งของชุมชน Local Economy
“ครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนประเทศ หลายคนเป็นห่วงผลกระทบของสถานการณ์หลังวิกฤตการณ์ แต่ผมเชื่อว่าในวิกฤตเป็นโอกาสเสมอ แล้วคนที่จะทำให้วิกฤตนั้นเป็นโอกาสได้คือองค์ความรู้จากพวกเราชาวมหาวิทยาลัย” ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ กล่าว
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น
หลังจากรัฐมนตรีฯ อว.ได้กล่าวนำเปิดการประชุมแล้ว รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า ในนามของมหาวิทยาลัยขอนแก่นต้องขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ได้มาเยี่ยมติดตามโครงการจ้างงานด้วยการริเริ่มของ กระทรวงการอุดมศึกษาฯที่ก่อให้เกิดโอกาสที่ดีต่อประชาชน ในส่วนของการทำงานของมหาวิทยาลัยทั้ง 11 แห่งในอีสานตอนบน ก็ได้รับนโยบายและมีการวางแผนการทำงานทั้ง 4 โครงการคือ โครงการจ้างงานระยะที่ 1 โครงการจ้างงานระยะที่ 2 โครงการพัฒนาสินค้า OTOP และ โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย ซึ่งในการทำงานของมหาวิทยาลัยได้ดึงเอาภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐเอกชนและองค์กรต่างๆที่มีศักยภาพเข้ามา โดยหวังว่าโครงการเหล่านี้จะพลิกโอกาสมาสู่ประเทศตามที่รัฐมนตรีฯได้กล่าวมา ในนามของมหาวิทยาลัยขอนแก่นจะทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุด
ศ.ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว.
จากนั้น ศ.ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว. ได้กล่าวถึงรายละเอียดโครงการต่างๆ ที่อยู่ในแผนการดำเนินงานต่อตัวแทนมหาวิทยาลัย เช่น ความสำเร็จของโครงการยุวชนสร้างชาติ สรุปผลโครงการจ้างงานประชาชนในระยะที่ 1 แผนการดำเนินงานโครงการจ้างงานประชาชนในระยะที่ 2 และโครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้โดยก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย ศ.ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว.และคณะ รวมทั้ง รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและวิสาหกิจ และ อ.ณัฐสมล ธนกุลรังสฤษดิ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ ผศ.ดร.พักตร์วิไล ศรีแสง คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าโครงการจ้างงานผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์COVID-19 ที่เทศบาลตำบลบ้านแฮด อำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้นำตัวแทนผู้ได้รับการจ้างงานในพื้นที่ต่างๆรวมทั้งผู้รับผิดชอบแผนโครงการ และผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่มารายงานความคืบหน้าในการดำเนินการ ซึ่งมีการจ้างงานใน 20 พื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดขอนแก่น ภายใต้โครงการดูแลผู้สูงอายุที่คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นผู้ดำเนินการ
ผศ.ดร.พีรพงษ์ บุญสวัสดิ์กุลชัย อาจารย์ประจำคณะพยาบาลศาสตร์ ผู้รับผิดชอบโครงการจ้างงานประชาชนจากสถานการณ์COVID-19 เพื่อการพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุโดยชุมชน ได้กล่าวรายงานต่อคณะตรวจเยี่ยมว่า โครงการจ้างงานผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์COVID-19 ของคณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เข้าร่วมดำเนินการโดย ในช่วงแรกเน้นการพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุโดยชุมชนท้องถิ่น ครอบคลุม20 พื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่ภายใต้เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นหน้าอยู่ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ มีผู้ได้รับการจ้างงานจำนวน 100 คน ซึ่งในการทำงานในพื้นที่ได้มีการจัดอาจารย์ที่ปรึกษาให้การดูแลแนะนำในการปฏิบัติงาน เพื่อให้เรียนรู้ศักยภาพและการปฏิบัติงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ พร้อมทั้งมีการสำรวจวิเคราะห์ข้อมูลและนำไปใช้ เพื่อการตัดสินใจขององค์กรในการดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่ต่อไป
หลังจากการรายงานสรุปแล้ว ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนผู้ได้รับการจ้างงานที่มาร่วมในงานได้กล่าวแสดงความคิดเห็น ตลอดจนตอบข้อซักถามของรัฐมนตรีฯต่อการมีส่วนร่วมในโครงการที่รัฐบาลได้ดำเนินการในครั้งนี้
อุดมชัย สุพรรณวงศ์ / ข่าว –ภาพ
นาย อรรถพล ฮามพงษ์ นาย ณัฐวุฒิ จารุวงศ์ นาย ณัฐพงษ์ ชำนาญเอื้อ / ภาพ